ทุกครั้งที่มีการพูดถึงพระบรมวงศานุวงศ์ยุโรป ที่ทรงใส่ใจเรื่องการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พวกเรามักจะนึกถึง เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ เพราะทรงรณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจังมาต่อเนื่องหลายปี โดยมีรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมโลกจากสถาบันต่างๆเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็น เจ้าชายหัวใจสีเขียว อย่างไรก็ดี มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้ว สมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ ต่างหาก ที่ทรงเป็นผู้ริเริ่มวางรากฐานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาแต่ไหนแต่ไร โดยทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบ อย่างตามมาตรฐานของ เดอะ กรีน ควีน ทุกกระเบียดนิ้ว!!
ควีนเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ ทรงสนพระทัยในเรื่องสิ่งแวดล้อม มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และก่อนที่ผู้นำทั่วโลกจะลุกขึ้นถกเครียดเรื่องวิกฤติโลกร้อนด้วยซ้ำ!! เพียงแต่รูปแบบของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพิทักษ์โลกของพระองค์ ที่ได้รับการปลูกฝังอย่างเข้มข้นจากพระราชชนนี ควีนมัม นั้น เริ่มต้นขึ้นจากสิ่งใกล้ๆตัวในชีวิตประจำวัน โดยแสดงออกมาในแนวทางของ ความมัธยัสถ์ ประหยัดน้ำประหยัดไฟ เซฟทุกอย่างที่ขวางหน้า รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น มากกว่าจะตั้งโจทย์ใหญ่ห่วงใยชั้นบรรยากาศโอโซน จะถูกทำลายแบบนักวิชาการด้านสิ่ง แวดล้อมเย้วๆกันประจำ!!
ตั้งแต่ยังพระเยาว์ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ทรงได้รับการปลูกฝังพระนิสัย ประหยัด มาอย่างต่อเนื่อง โดยทรงถือคติใหญ่ว่า ห้ามทิ้ง...ห้ามเรียกร้องเอาโน่นเอานี่!! เมื่อเจริญพระชนม์ย่างเข้าสู่ วัยรุ่น ยังทรงได้เรียนรู้ถึงความจำเป็นในการใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์จริงๆด้วยพระองค์เอง เพราะต้องเผชิญกับความยากเข็ญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จนเป็นธรรมเนียมที่รู้กันในหมู่ข้าราชบริพารสมัยนั้นว่า พระองค์โปรดจะรีไซเคิลของทุกอย่างที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง และไม่โปรดใครที่ทำตัวสุรุ่ยสุร่าย!!
แม้ภายหลังจะทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นองค์พระประมุขแห่ง เครือจักรภพอังกฤษ และเสด็จฯไปประทับอยู่ในพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมอันหรูหรา มีข้าราชบริพารเป็นร้อยๆคอยล้อมหน้าล้อมหลังถวายการรับใช้ แต่ เดอะ กรีน ควีน ก็ไม่ทรงเคยเปลี่ยนพระนิสัยจากเดิมแม้ แต่น้อย แถมนับวันจะยิ่งประหยัดๆๆ และประหยัดเข้มข้นจริงจังขึ้นกว่าเก่ามาก!! จนกลายเป็นกิตติศัพท์ที่เลื่องลือและเล่าขานกันไปทั่ว!!
ว่ากันว่าทุกครั้งที่ประทับอยู่ในพระราชวัง สิ่งหนึ่งที่ สมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สอง มักจะทรงทำเสมอๆจนเป็นที่ชินตาก็คือ โปรดที่จะเดินตรวจตราไปทั่วทั้งวัง เพื่อปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นต้องใช้ และจะไม่โปรดให้นางสนอง พระโอษฐ์เปิดอีสเตอร์ภายในพระราชวังแรงเกินไป เพราะเปลืองไฟ!! หากพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดบ่นว่าหนาว ก็จะรับสั่งให้หาฉลองพระองค์สวมใส่ให้หนาขึ้นแทน!!
นอกจากนี้ องค์พระประมุขแห่งอังกฤษยังทรงวางพระองค์เป็น ต้นแบบด้านความประหยัดอย่างเอาจริงเอาจัง!! โดยจะทรงรีไซเคิลนำซองจดหมายเก่ากลับมาใช้ใหม่ทุกครั้ง, ไม่โปรดให้เปลี่ยนไส้ ตะเกียงใหม่ หากของเดิมยังไม่หมดจริงๆ, ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้นำเศษหญ้า และกิ่งไม้ทั้งหมด ที่ตัดจากสวนภายในพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม, พระราชวังเซนต์เจมส์ และพระราชวังเคนซิงตัน กลับมารีไซเคิลใช้ ประโยชน์ใหม่, ทรงมีบัญชาให้รีไซเคิลต้นคริสต์มาสทุกต้นที่ประดับ อยู่ในพระราชวังทุกแห่ง, พระตำหนักทุกหลัง บ้านพักเหล่าข้าราชบริพารทั้งหมดในกรุงลอนดอน แม้แต่รถยนต์พระที่นั่งทั้ง 3 คันคือ โรลสรอยซ์, แดมเลอร์ ลีมูซีน และโรเวอร์ 400 ก็ทรงให้เปลี่ยนจากใช้น้ำมันเป็น แอลพีจี ทุกคัน เพราะประหยัดพลังงานและเป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า!! ขณะที่พระสวามีของพระองค์ เจ้าชาย ฟิลิป หันมาใช้รถเมโทรแค็บ (หน้าตาแบบเดียวกับรถแท็กซี่ของลอนดอน) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานแอลพีจี เพื่อเสด็จไปปฏิบัติพระกรณียกิจยังสถานที่ต่างๆทั่วกรุงลอนดอน ตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปัจจุบัน
มาตรการประหยัดเพื่ออนาคตของควีนอังกฤษยังลุกลามไปถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆด้วย โดยทุกครั้งที่เสด็จฯแปรพระราชฐานฤดูร้อน ไปยังพระราชวังบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ พระองค์อื่นๆ จะทรงกำชับให้ข้าราชบริพารใกล้ชิดตรวจเช็กไวน์ที่เหลือ อยู่อย่างละเอียดทุกขวด ไม่ว่าจะเหลือมากเหลือน้อย แค่ครึ่งขวดหรือ ก้นขวด ก็ทรงปรารถนาให้นำกลับมาด้วยเพื่อไว้เสวยในคราวหน้า!!
ด้านของพระสวามี เจ้าชายฟิลิป เอง ก็ทรงพยายามช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วยอีกทาง โดยทรงเป็นผู้ริเริ่มให้สร้างฟาร์มเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่อย่างจริงจัง ภายในบริเวณพระราชวังแซนดริงแฮม รวมทั้งสนับสนุนให้ปลูกพืชผักผลไม้ออร์แกนิก อย่างแอปเปิ้ล, แบล็คเคอร์แรนต์ และเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ ไว้ใช้เสวยภายในรั้วในวัง
ด้วยความเอาใจใส่อย่างจริงจังของควีนเอลิซาเบธที่สอง ในช่วง ไม่กี่ปีมานี้ จึงมีการปฏิวัติการใช้พลังงานภายในพระราชวัง และพระตำหนักต่างๆของราชวงศ์อังกฤษขนานใหญ่ เพื่อรับประกันว่า การบริหารจัดการทุกอย่างจะดำเนินไปบนพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเซฟอีเนอจี้ได้มากถึงมากที่สุด!!

คณะกรรมาธิการประหยัดพลังงานของบั๊กกิ้งแฮม ได้ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2001 เพื่อทำ หน้าที่สอดส่องดูแล หาหนทางในการลดการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองทุกวิถีทาง!! มีการริเริ่มนำเครื่องปั๊มน้ำใต้ดินมาใช้เพื่อประหยัดน้ำ และปกป้องสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ยังได้ริเริ่มแผนการสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากกังหันน้ำพลังไฮดรอลิก เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้น เปลืองภายในพระราชวังต่างๆ โดยที่ พระราชวังบัลมอรัล เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าจากกังหันน้ำไฮดรอลิกได้เองตั้งแต่ปี 2005 และมีกำลังผลิตเพียงพอสำหรับรองรับความต้องการไฟฟ้าของทั้งพระราชวัง รวมถึงบ้านเรือนเกือบพันหลังในบริเวณใกล้เคียง
ส่วนที่ พระราชวังวินด์เซอร์ กำลังอยู่ระหว่าง การก่อสร้างโรงผลิตกระแส ไฟฟ้าจากกังหันน้ำพลังไฮดรอลิก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ด้วยงบ ประมาณถึง 1 ล้านปอนด์ คาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ราว 200 กิโลวัตต์ ป้อนกระแสไฟฟ้าให้พระราชวังวินด์เซอร์ได้ถึง 1 ใน 3 ของความต้องการ

สำหรับ พระราชวังบั๊กกิ้งแฮม นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ สำคัญที่จะต้องตรวจสอบการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการในกรุงลอนดอนของควีนเอลิซาเบธที่สอง และมีข้าราชบริพารประจำอยู่ไม่น้อยกว่า 600 คน ตลอดทั้งปียังมีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับแขกเหรื่อ และเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมเป็นระยะๆ เพราะเหตุนี้เอง ทุกๆ 5 ปี จึงต้องมีการเปิดประชุมใหญ่ในหมู่คณะกรรมาธิการฯ เพื่อประเมินถึงสถานการณ์ด้านพลังงานของบั๊กกิ้งแฮม โดยทั่วทั้งพระราชวังได้มีการนำคอมพิวเตอร์ มาใช้เพื่อควบคุมระบบไฟฟ้าและระดับอุณหภูมิภายในวัง
เมื่อช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทางบั๊กกิ้งแฮมยังได้ริเริ่มแผนการรีไซเคิลคอมพิวเตอร์อย่างจริงจังด้วย โดยปัจจุบันมีการนำเครื่องคอมพิวเตอร์ พีซี 250 เครื่อง, จอคอมพิวเตอร์ 200 เครื่อง และเครื่องพรินเตอร์ 65 เครื่อง บริจาคให้ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคต่างๆได้ใช้ ประโยชน์ต่อไป
นี่คืออีกด้านของสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ ในฐานะ เดอะ กรีน ควีน...ราชินีหัวใจสีเขียว ผู้ทรงห่วงใยและใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร!!

บทความโดย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/news.php?section=society&content=3968
ปีที่ 58 ฉบับที่ 18220 วันจันทร์ ที่ 10 ธันวาคม 2550
|