
ปัญหานี้อาจจะอยู่ไกลเกินไปเนื่องจากระยะทางระยะเวลาในการใช้งานยังไม่มาก รถยนต์บางคันใช้ไป 2 แสนโล ก็ยังใช้หม้อต้มเดิมได้ บางคัน 5 หมื่นโล บางคัน ไม่ถึง 1 พันโล ก็ไปเสียแล้ว ดังนั้นเราจึงเสนอแนะวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแบบง่ายๆ ครับ

เราควรจะทราบว่าการต่อท่อน้ำเข้าและออก จากระบบหล่อเย็นไปหม้อต้ม อันไหนเข้า อันไหนออก ต่อจากจุดใด
หม้อต้มมี 2 ด้านคือด้านนำเข้าออกเพื่อต้มแก็ส อีกด้านเป็นด้านรับเข้าออกแก็ส หากด้านนี้รั่วอันตรายครับ ควรจะรีบปิดวาลฺวแก็สและปล่อยให้แก็สหมดแล้วค่อยใช้โหมดน้ำมันต่อไป (ไปซ่อม)
ส่วนด้านที่รับน้ำเข้าออกนี้สิครับ หากรั่วหรือแตกขึ้นมา จะทำยังไงดีละ

นี่ไงครับท่อน้ำเดิมของพวกเราที่ทิ้งไว้ที่อู่แก็ส แบบไม่มีเยื่อใยกับมันเลย มันจะจำเป้นมากเมื่อ หม้อเราแตกหรือรั่ว เก็บสำรองติดรถไว้ ใส่กลับเข้าไปแล้วใช้โหมดน้ำมันขับต่อไป(ไปซ่อม)

รถบางรุ่นตัดระบบฮีตเตอร์ออกก็จะเป็นแค่จุกยางแบบนี้ปิดเอาไว้ ครับ เก็บสำรองได้เลย มีสมาชิก JUC ที่เดินทางไปทางใต้เกิดปัญหาแบบนี้เลย ปรากฏว่าหาจุ๊บยางไม่ได้ต้องเสียเวลาในการหาซื้ออีก ครับ

ไหนก็แถมอีกเรื่องหนึ่งครับ พกสวิซตัวนี้ด้วย ราคาแค่ 60 บาทครับ มีหลายคนปรับไป ปรับมา มันเหมื่อยนะครับใช้งานมาหลายปี มันเสียทั้งแก็สและน้ำมันเลยครับ หากไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้า พกติดรถ 1 อันไม่เสียหายครับ
GasThai.Com ขอขอบคุณข้อมูลจากสมาชิก Jeep Unity Club
หากเป็นไปได้ควรจะตรวจเช็คสายยางท่อน้ำ ท่อแก็ส หม้อต้ม ตลอดจนระบบการติดตั้งทั้งระบบ ทุกๆ 6 เดือน
|